10 วิธีเลือกซื้อบ้าน
41

10 วิธีเลือกซื้อบ้าน

เชื่อว่าหลายคนน่าจะมีความฝันว่าจะมีบ้านเป็นของตัวเองสักหลัง แต่ค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้ในการสร้างบ้านหรือซื้อบ้านนั้นไม่ใช่เงินจำนวนน้อย ๆ เลย ทั้งราคาที่ดิน ทั้งค่าใช้จ่ายในบริการก่อสร้าง ตกแต่งภายใน หรือแม้กระทั่งราคาของบ้านในโครงการก็ตาม ดังนั้นเมื่อเราตัดสินใจจะซื้อหรือทำบ้านแล้ว จึงจำเป็นต้องหาข้อมูลให้มาก ๆ เพื่อให้การลงทุนครั้งนี้คุ้มค่ามากที่สุดและได้บ้านที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของได้อย่างตรงจุด วันนี้ทีมงานของเรามีวิธีการเลือกซื้อบ้านมาฝากกันครับ

39

1. เลือกจากราคา

ราคาเป็นอย่างแรกที่เราต้องคำนึงถึง เพราะราคาเป็นตัวกำหนด ทั้งขนาด ทำเลที่ตั้ง โครงการ พื้นที่ใช้สอย และอื่น ๆ เมื่อเราได้กำหนดงบประมาณในการซื้อบ้านแล้ว ขอบเขตในการเลือกหาก็จะแคบลง ตัวเลือกก็จะลดลงด้วย ทำให้เราตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น

2. เลือกจากขนาด

ขนาดของบ้านส่วนมากจะถูกกำหนดด้วยราคามาแล้ว แต่เราก็สามารถเลือกขนาดของบ้านที่เหมาะกับครอบครัวของเราได้ โดยดูว่าครอบครัวของเรามีสมาชิกในบ้านกี่คน ต้องการพื้นที่มากน้อยแค่ไหน ห้องกว้างเท่าไร ต้องการมีพื้นที่สวนไหม ครัวต้องใหญ่เท่าไร เพื่อให้สอดคล้องกับการใช้ชีวิตประจำวันของเรามากที่สุด

3. เลือกจากพื้นที่ใช้สอย

หัวข้อนี้จะสอดคล้องกับการเลือกขนาด เมื่อเราพอจะกำหนดราคาและขนาดคร่าว ๆ ได้แล้ว เราจึงมาเลือกพื้นที่ใช้สอยภายในตัวบ้าน สิ่งสำคัญที่ควรคำนึงถึงคือ ฟังก์ชั่นของห้องต่างๆ เพียงพอและเหมาะสมกับการใช้สอยของเรา ห้องที่จำเป็นต่าง ๆ มีตามความต้องการของเราไหม

กว้างยาวเพียงพอต่อความต้องการไหม

แต่หากงบประมาณที่เรามีจำกัดให้ได้ขนาดของบ้านหรือพื้นที่ใช้สอยเพียงเท่านี้จริง ๆ ก็ไม่ต้องเป็นกังวลมากไป เราอาจเลือกใช้บริษัทรับออกแบบภายในครบวงจรที่มีความเชี่ยวชาญ ช่วยปรับปรุงพื้นที่ภายในบ้านให้ดูกว้างขวาง สวยงาม แต่มีฟังก์ชั่นใช้สอยลงตัวได้ตามความต้องการในภายหลัง

4. เลือกจากทำเล

ทำเลที่ตั้งของบ้านเป็นส่วนที่สำคัญมากไม่น้อยไปกว่าข้อแรก ๆ ที่กล่าวมาข้างต้นเลย เพราะว่าทำเลเป็นตัวกำหนดราคาว่าบ้านจะราคาเท่าไร เราควรเลือกทำเลที่เหมาะสมสอดคล้องกับราคาที่เราต้องจ่าย และการเดินทางเข้าออกควรจะสะดวก ไม่เข้าลึกเกินไป หรือซอยแคบจนเข้าถึงได้ยากจนเกินไป

5. เลือกจากโครงการ

ทำไมเราต้องเลือกจากโครงการ? เพราะโครงการบ้านจัดสรรที่ดี ส่วนมากจะมีทำเล มีสภาพแวดล้อม มีสิ่งอำนวยความสะดวก มีระบบสาธารณูปโภคที่ดี มีการดูแลและการออกแบบสภาพแวดล้อมที่ดี แต่ละโครงการอาจจะมีความแตกต่างกัน มีจุดดี จุดด้อย รวมทั้งชื่อเสียงที่ต่างกัน มาตราฐานการก่อสร้าง และการเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ที่ต่างกัน เราจึงควรดูโครงการที่มีความน่าเชื่อถือ เพื่อความสบายใจในระดับนึงว่า ในอนาคตบ้านของเราจะไม่พังหรือถูกทิ้งเป็นโครงการที่ไม่มีคนดูแล

6. เลือกจากแบบบ้าน

แบบบ้านที่ดี ที่สวยงามนั้น ขึ้นอยู่กับความชื่นชอบของแต่ละบุคคล ถ้าเราได้อยู่ในบ้านแบบที่เราชอบจะทำให้เราภูมิใจและให้ความรู้สึกว่าบ้านนั้นน่าอยู่ขึ้นอีกมาก แต่สิ่งสำคัญในการเลือกแบบบ้านเลยก็คือ แบบบ้านนั้น ๆ ได้รับการออกแบบมาอย่างดีหรือไม่ ใช้งานได้จริงหรือเปล่า เช่น หลังคาเป็นทรงไหนจะระบายน้ำได้ดีเท่าไร มีหน้าต่างระบายอากาศได้ดีไหม ประตูทางเข้าและที่จอดรถกว้างขวางสะดวกหรือเปล่า ฯลฯ การเลือกซื้อบ้านจัดสรรตามโครงการอาจจะมีข้อจำกัดในด้านนี้ค่อนข้างมาก ทำให้เราไม่สามารถเลือกได้ดังใจเต็มที่ ซึ่งจะแตกต่างจากการปลูกบ้านเอง ตรงที่จะมีขั้นตอนรับออกแบบสถาปัตยกรรม ทำให้ได้บ้านที่ตรงใจผู้อยู่จริง ๆ

7. เลือกจากวัสดุ อุปกรณ์ การก่อสร้าง

เมื่อเราเลือกบ้านจากรูปลักษณ์ความสวยงามภายนอกมาแล้ว มาเลือกจากวัสดุภายในกันบ้างดีกว่า สิ่งสำคัญเราควรจะดูว่า วัสดุต่าง ๆ นั้นเป็นอะไร กั้นผนังด้วยอะไร จะต่อเติมหรือปรับเปลี่ยนในภายหลังได้ไหม วัสดุปูพื้นเป็นอะไร ห้องน้ำและลานต่าง ๆ ระบายน้ำได้ดีไม่อุดตัน ไฟฟ้ามีการเดินสายและติดตั้งได้มาตรฐาน วัสดุต่าง ๆ ทนทานต่อการใช้การของเราหรือเปล่า

8. เลือกจากสภาพแวดล้อม

สภาพแวดล้อมที่เราจะพูดถึงก็คือ บรรยากาศในโครงการและใกล้เคียง เช่น ต้นไม้ความร่มรื่น ถนน ทางสัญจรต่าง ๆ เพื่อนบ้าน ร้านค้า ตลาด ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล ฯลฯ สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็นของเรา เมื่อมีสิ่งเหล่านี้จะทำให้เราสะดวกสบายขึ้นมากในการอยู่อาศัย

9. เลือกจากนิติบุคคลและส่วนกลาง

ก่อนจะตัดสินใจเลือกซื้อบ้านอย่างหนึ่งที่ทุกคนอาจจะลืมไป หรืออาจจะไม่ได้นึกถึงเลยก็คือนิติบุคคล ค่าส่วนกลาง ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ของส่วนกลาง เราควรตรวจสอบให้ดีว่านิติบุคคลในขณะนั้นว่าเป็นใคร ในอนาคตจะปรับเปลี่ยนไปเป็นอย่างไร ค่าใช้จ่ายรายเดือน รายปี และมีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง

10. เลือกจากฮวงจุ้ย

ฮวงจุ้ย ในข้อนี้เราจะพูดถึงทิศทางและทำเล อย่างแรกที่เราควรดูคือ

  • ทิศทาง ว่าหน้าบ้านหันทางทิศไหน เช้า บ่าย ตอนไหนโดนแดดอย่างไร มีเสาไฟฟ้าใกล้บ้านหรือมีขวางกลางบ้านรึเปล่า ต้นไม้ในบ้านและนอกบ้านปลูกในลักษณะอย่างไร แสงส่องเข้าในบ้านมากน้อยแค่ไหน ลมพัดระบายอากาศในบ้านได้ดีไหม
  • ทำเลที่ตั้ง หน้าบ้านควรหันเข้าหาถนนและไม่ควรห่างจากถนนใหญ่จนเกินไป ถนนทางเข้าออกกว้างขวาง พอที่รถ 10 ล้อเข้าออกได้ อยู่ไม่ไกลจากร้านค้าและตลาด มีวัดและสถานที่ทางศาสนาที่ไม่ไกลจนเกินไป

ฐานเศรษฐี


Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *